25.12.08

ชวนชม ความงามรูปแบบที่น่าเชยชม

ชวนชม ความงามรูปแบบที่น่าเชยชม

ทุกวันนี้ มนุษย์ได้ก้าวสู่ยุคโลกร้อน (global warming) แล้วอย่างปราศจากข้อสงสัย

ไม้ดอกบางชนิดก็ดูเหมือนจะปรับตัวให้เข้ากับอากาศร้อนในตอนนี้ได้ดี ทำให้มีโอกาสขยายความนิยมไปได้กว้างขวางยิ่งขึ้น ทั้งในเขตร้อน (tropical) และ กึ่งร้อน (sub tropical) ไปสู่เขตอบอุ่น (temperate) ดังเช่น ไม้ดอกที่จะนำมาเสนอท่านผู้อ่าน นั้นคือ ชวนชม

ชวนชม : ไม้งามจากแดนไกล

ชวนชมมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Adenium obesum Balf. อยู่ในวงศ์ Apocynaceae เช่นเดียวกับตีนเป็ด และบานบุรี

ลำต้น ยาว 1 -2 เมตร ผิวตึงเพราะอวบน้ำ แตกกิ่งก้านได้ดี

ใบ สีเขียว ค่อนข้างหนา ผิวใบเป็นมัน เส้นกลางใบเป็นสีเขียวเห็นได้ชัดเจน ในรูปร่างยาวรี ปลายมน โคนใบสอบเข้า ใบจะอยู่ตามปลายกิ่งก้าน

ดอก เป็นรูปแตร ปลายกลีบแยกออกจากกันเป็น 5 กลีบ ขนาดยาวราว 5 เซนติเมตร ออกดอกตามปลายยอดของกิ่งก้าน

ดอกชวนชมมีหลายสี เช่น สีชมพู แดง ม่วง และ สีขาว รวมทั้งมีสีเข้ม สีอ่อน และมีสีเหลือบต่างสีกลางกลีบดอกอีกด้วย ทำให้ดอกชวนชมมีความหลากหลาย

ชวนชมเป็นพืชอีกชนิดหนึ่งที่มาจากแดนไกล ถิ่นกำเนิดดั้งเดิมของชวนชม อาจเดาได้จากชื่อภาษาอังกฤษคือ Impala lily เพราะอิมพาลาเป็นสัตว์ของทวีปแอฟริกาชวนชมก็มาจากทวีปแอฟริกาเช่นเดียวกัน ชวนชมเข้ามาในเมืองไทยนับร้อยปีมาแล้ว ดังพบชื่อในวรรณคดีไทยบางเรื่อง โดยอาจเรียกว่า “ชวนชม” ซึ่งหมายถึง “ชวนมอง” นั่นเอง

ชวนชมเหมาะที่จะปลูกในกระถาง เพราะมีขนาดไม่ใหญ่นัก อีกทั้งลักษณะต้นยังเหมาะแก่การปลูกเป็นบอนไซ เพราะแข็งแรงทนทาน มีทรงต้นและรากที่สามารถทำให้เป็นพูพอนขนาดใหญ่คล้ายต้นไม้โบราณได้ง่าย ขยายพันธุ์ได้หลายวิธี เช่น เพาะเมล็ด ตอนกิ่งและเสียบกิ่ง เป็นต้น ปลูกง่าย โตเร็ว แข็งแรงทนทาน ทนร้อนและแห้งแล้งได้ดี ชอบแดดจัด และออกดอกตลอดทั้งปี บางสายพันธุ์ยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย ชวนชมจึงนับเป็นไม้ดอกน่าปลูกอีกชนิดหนึ่งในยุคโลกร้อนนี้

23.12.08

นมตำเลียดอกไม้งามอย่างพอเพียง

นมตำเลียดอกไม้งามอย่างพอเพียง

ในบรรดาดอกไม้หลายสิบชนิดที่คอลัมน์นี้นำเสนอมาแล้ว ดูเหมือนจะไม่มีชนิดใดที่มีชื่อแปลกเหมือนดอกไม้ที่จะนำเสนอในครั้งนี้เลย รวมทั้งยังมีคุณลักษณะพิเศษเป็นดอกไม้ขนาดเล็กแต่ไม่เล็กเกินไป หรืออาจจะเรียกได้ว่ามีขนาด “พอเพียง” อีกด้วยนับว่ามีความทันสมัยเหมาะกับยุคนี้เป็นอย่างยิ่ง ดอกไม้ชนิดนี้มีนามว่า “นมตำเลีย”

นมตำเลียมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Hoya ovalifolia & Wight Arm อยู่ในวงศ์ Asclepiadaceae เป็นไม้เถาขนาดเล็ก ในธรรมชาติมักอาศัยอยู่บนต้นไม้ ทุกส่วนของลำต้นมียางสีขาว

ใบ เป็นใบเดี่ยวออกเป็นคู่ ๆ ตามข้อเถา ใบหนาผิวมัน ขอบใบเรียบ รูปใบคล้ายหัวใจ กว้างยาวราว 6 เซนติเมตร

ดอก ออกเป็นช่อตามง่ามใบ แต่ละช่อประกอบด้วยดอกย่อยมากมาย แต่ละดอกประกอบด้วยกลีบด้านนอก 5 กลีบ และกลีบเล็กอีก 5 กลีบทาบติดกับกลีบด้านนอก กลีบดอกเต่งตึงเป็นมันคล้ายทำด้วยเทียนหรือขี้ผึ้ง ดอกมีกลิ่นหอม

ผล นำตำเลีย มีผลเป็นฝัก ผิวของฝักมีขนอ่อนปกคลุม

นมตำเลียที่นิยมปลูกเป็นไม้ประดับปัจจุบันมีหลายพันธุ์ แต่ละพันธุ์มีลักษณะดอกและสีดอกแตกต่างกันออกไป เช่น สีแดง ชมพู เหลือง และขาว เป็นต้น

ชื่อที่ใช้เรียบนอกจากนมตำเลียแล้ว ก็มี นมตำเรีย นมมาเลีย (ภาคกลาง) เนื้อมะตอม (ภาคเหนือ) ภาษาอังกฤษเรียก Wax Plant

นมตำเลียชอบที่ร่ม มีความชื้นและแสงสว่างพอประมาณ ขยายพันธุ์โดยการเพาะเมล็ด ตอน หรือปักชำ

นมตำเลียมีขนาดเล็กเหมาะสำหรับปลูกในกระถางแขวน ปลูกไม้ยาก รูปทรงลำต้น ใบ และดอก กะทัดรัดงดงาม น่ารัก ไม่ฉูดฉาดหรูหรา หรืออาจจะเรียกว่า “งามอย่างพอเพียง” ได้

นอกจากนี้ ยางจากลำต้นยังนำไปปรุงเป็นยาขับปัสสาวะได้ด้วย

21.12.08

กระเจียวอัญมณีจากพงไพรที่เริ่มเปล่งประกาย

กระเจียวอัญมณีจากพงไพรที่เริ่มเปล่งประกาย

ปี พ.ศ. 2550 อาจเป็นปีที่ชาวไทยส่วนใหญ่เริ่มยอมรับ ว่าปรากฏการณ์โลกร้อน (Global Warming) เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วจริง ๆ โดยเฉพาะกับประเทศไทย เพราะอากาศเริ่มร้อนขึ้นตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ เมื่อถึงเดือนมีนาคม อุณหภูมิบางแห่งก็ทะลุ 40 องศาเซลเซียสแล้ว เดือนเมษายน ซึ่งปกติเป็นเดือนที่ร้อนที่สุดในประเทศไทย คงจะทำสถิติร้อนที่สุดในรอบหลายสิบปี หากไม่มีฝนหลงฤดูมาลดอุณหภูมิลงไปบ้าง

อากาศที่ร้อนจัดทำให้ดอกหลายชนิดเหี่ยวเฉา แต่ไม้ดอกพื้นเมืองส่วนใหญ่ กลับออกดอกงดงามเป็นพิเศษ เช่น คูน หรือราชพฤกษ์ เป็นต้น จากนี้ไปในอนาคตที่แนวโน้มอุณหภูมิโลกจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ จึงคาดว่า พันธุ์ไม้ดอกพื้นเมืองของไทย จะเพิ่มความสำคัญขึ้นทุกที ไม่เฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังขยายออกไปต่างแดนด้วย ตัวอย่างที่จะยกมาในที่นี้ คือ กระเจียว

กระเจียว : ไม้ดอกพื้นบ้านดั้งเดิมจากพงไพร

กระเจียวมีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Curcuma aeruginosa Roxb. อยู่ในวงศ์ Zingiberaceae เช่นเดียวกับ ขิง ข่า ขมิ้น ฯลฯ เป็นพืชล้มลุกที่มีลำต้นใต้ดิน (เรียกว่าหัว)

ใบ จะงอกออกจากลำต้นใต้ดินในฤดูฝน โผล่พ้นผิวดินขึ้นมา ประกอบด้วยก้านใบ (กาบใบ) ห่อรวมกันแน่นกลายเป็นลำต้นเทียม แล้วแยกออกจากกันเป็นก้านใบ และแผ่นใบ คล้ายกระชาย หรือขมิ้น สูงตั้งแต่ประมาณ 20 -30 เซนติเมตร ขึ้นไปถึงราว 100 เซนติเมตร

ดอก ดอกกระเจียวจะโผล่ออกตรงกลางลำต้นเทียมเป็นดอกแบบช่อ ก้านช่อดอกยาวตรง มีดอกจริงอยู่รอบ ๆ ก้านดอก เป็นชั้น ๆ ด้านนอกมีใบประดับดอกเป็นกลีบหนา และมีสีสวยงาม เช่น สีส้ม สีแดง สีขาว สีชมพู สีเขียว เป็นต้น ดอกกระเจียวจะออกดอกในช่วงฤดูฝน มีอายุบานอยู่บนต้นประมาณ 2 สัปดาห์ ก็จะเหี่ยวร่วงโรยไป แต่บางสายพันธุ์ก็อาจบานได้นานถึง 1 เดือน

ถิ่นกำเนิดของกระเจียว อยู่ในป่าทุกภาคของประเทศไทย เช่น ภาคเหนือ อีสาน และใต้ โดยพบขึ้นอยู่หลากหลายในภาคเหนือ และภาคอีสาน มากกว่าภาคอื่น นอกจากนี้ยังพบในเพื่อนบ้านใกล้เคียง เช่น พม่า ลาว เขมร มาเลเซีย เวียดนาม ด้วย คนไทยรู้จักกระเจียวมานานแล้ว ดังปรากฏในหนังสืออักขราภิธานศรับท์ พ.ศ. 2416 ว่า “กระเจียว” : ผักอย่างหนึ่ง ต้นใบเช่นขมิ้นอยู่กลางทุ่ง กลางป่าข้างเหนือ ดอกมันกินได้”

กระเจียว มีชื่อเรียกหลายชื่อ เช่น ว่านมหาเมฆ ดอกดิน กระชายดง (เลย) อาว (เชียงใหม่)

ประโยชน์

เดิมคนไทยใช้หน่ออ่อน และดอกอ่อนของกระเจียวเป็นอาหาร (ผัก) กินกับน้ำพริกใช้แกง และใช้หน่ออ่อนเป็นยาสมานแผล ดอกอ่อนใช้ขับลม เป็นต้น

ปัจจุบันกระเจียวกลายเป็นไม้ดอกที่มีชื่อเสียงทั้งในพื้นที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น ทุ่งดอกกระเจียว จังหวัดชัยภูมิ และการปลูกเป็นการค้า เป็นไม้ดอกกระถาง ทั้งในประเทศและส่งออกต่างประเทศ เป็นไม้ดอกที่ส่งออกติดอันดับต้น ๆ ของไทยอย่างหนึ่ง และมีแนวโน้มขยายตัวมากขึ้นทุกปี เพราะส่งออกในรูปหัวซึ่งสะดวก และประหยัดกว่าการส่งออกเป็นต้นหรือดอก

ปัจจุบันมีผู้เก็บรวบรวมพันธุ์กระเจียวจากธรรมชาติมาคัดเลือก และปรับปรุงโดยการผสมพันธุ์อย่างจริงจังหลายราย ทั้งส่วนราชการและเอกชน ประสบความสำเร็จดียิ่ง ดังเช่นที่ได้รับรางวัลในในการประกวดไม้ดอกนานานชาติในงานพืชสวนโลก (ราชพฤกษ์) ที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อต้นปีนี้ ทำให้ชาวโลกได้รู้จัก และยอมรับความงามของกระเจียวมากขึ้น อนาคตของกระเจียวจึงสดใสดุจอัญมณีที่ถูกเจียระไนแล้วเริ่มเปล่งประกายเข้าตาชาวโลก

15.12.08

จำปามีน้ำมันหอมระเหย

จำปา

Orange Chempaka Michelia champaca Linn. MAGNOLIACEAE

ชื่ออื่น : จำปาเขา จำปาทอง จำปาป่า

รูปลักษณะไม้ยืนต้น สูง 15-25 เมตร ยอดอ่อนมีใบเกล็ดหุ้ม ใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่ รูปวงรี หรือรูปวงรีแกมขอบขนาน กว้าง 5-10 ซม. ยาว 12-20 ซม.

ท้องใบมีขนนุ่ม ดอกเดี่ยวออกที่ซอกใบ กลีบดอกสีเหลืองส้ม กลิ่นหอม ผลเป็นผลกลุ่ม ผลย่อยติดบนแกนเป็นช่อยาว เมื่อแก่จะแตกสรรพคุณและส่วนที่นำมาใช้เป็นยาดอก

- มีน้ำมันหอมระเหย ใช้ดอกแห้งปรุงยาหอม บำรุงหัวใจ บำรุงประสาท บำรุงโลหิต แก้คลื่นไส้ แก้ไข้ ขับปัสสาวะ จัดอยู่ในพิกัดเกสรทั้งเจ็ด รักษาโรคเรื้อนและหิด

28.11.08

เมื่อดอกไม้บานฉ่ำ

เมื่อดอกไม้บานฉ่ำ

ไม่ว่าจะเป็นดอกไม้ชนิดใด ทั้งสีสวยหรือชนิดที่กลิ่นหอมกรุ่น การได้เห็นดอกไม้บานสีสดสวยสามารถทำให้ทั้งจิตใจและอารมณ์ของเราบานฉ่ำตามไปด้วย เพื่อให้ดอกไม้สวยอยู่ทนใช้วิธีการต่อไปนี้ในการตัดแต่งและดูแลดอกไม้
-ใช้กรรไกรหรือมีดคมกริบ ตัดปลายก้านออกประมาณ 1 นิ้ว โดยตัดเฉียงเป็นมุม 45 องศา เพื่อป้องกันไม่ให้ปลายก้านแนบติดกับพื้นแจกัน และเพิ่มพื้นที่หน้าตัดเพื่อให้ดอกไม้ดูดน้ำได้มากขึ้น และควรตัดก้านดอกไม้ในน้ำ
-ริดใบที่อยู่ด้านล่างใต้ระดับน้ำออกให้หมด เนื่องจากมันอาจทำให้น้ำเน่าเกิดเชื้อราและแบคทีเรีย ซึ่งทำให้อายุของดอกไม้สั้นลง
-เพื่อให้ไม้ตัดดอกอยู่รอดได้นานวัน พวกมันต้องการน้ำตาลเพื่อเป็นอาหารและส่วนประกอบที่เป็นกรด อย่างเช่น แอสไพรินเพื่อช่วยมันในการดูดน้ำ เดี๋ยวนี้มีอาหารสำหรับใส่ในน้ำสำหรับดอกไม้ตัดดอกโดยเฉพาะจำหน่าวย แต่คุณอาจใช้สูตรนี้ก็ได้ นั่นคือ น้ำหนึ่งควอร์ต กับแอสไพรินสองเม็ด น้ำตาลหนึ่งช้อนชา และน้ำยาฟอกขาว 2 -3 หยด (เพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรีย) คอยตรวจสอบระดับน้ำให้ท่วมปลายก้านเสมอ เปลี่ยนน้ำและตัดปลายก้านใหม่ทุก 2 – 3 วัน
-ถ้าต้องการฉีดน้ำให้ความชุ่มฉ่ำแก่กลีบดอก ฉีดให้ห่างประมาณ 50 ซม. และให้เป็นฝอยละเอียดกระจายให้ทั่วดอกจะได้ไม่ช้ำ

ที่มา : Lisa

26.11.08

ส่งดอกไม้ให้โดนใจ

ส่งดอกไม้ให้โดนใจ

ไม่ว่าผู้หญิงยุคสมัยใด ทุกคนล้วนชอบที่จะได้รับดอกไม้ เพราะช่อดอกไม้ไม่เพียงแค่ทำให้รู้สึกหวั่นไหวและสดชื่นเท่านั้น แต่ยังทำให้รู้เธอรู้สึกว่าตัวเองนั้นสวยและเป็นคนสำคัญขึ้นมาด้วย ฉะนั้นหากอยากชนะใจสาวก็ต้องพึ่งดอกไม้ให้ถูกชนิด และส่งถูกวิธี
v ส่งดอกอะไร : จะส่งดอกไม้ทั้งทีก็อย่าให้ผิดความหมาย เพราะดอกไม้แต่ละชนิดล้วนมีความหมายซ่อนเร้น อย่าง
กุหลาบ = รักโรแมนติก
กุหลาบชมพู = รักซ่อมเร้น
กุหลาบเหลือง = ฉันรักเธอเพื่อน
กุหลาบขาว = รักบริสุทธิ์
ลิลลี่ = รักหวานบริสุทธิ์
คาร์เนชั่นชมพู = อยู่ในใจเสมอ
คาร์เนชั่นขลิบเส้น = ปฏิเสธรัก
เดซี่ = รักอย่างภักดี
กล้วยไม้ = มีเสน่ห์และรักจริงจัง
ทิวลิป = คนรักที่สมบูรณ์แบบและโชคดี


v ส่งเมื่อไหร่ : ส่งแทนคำขอโทษ หรือในเทศกาลวันพิเศษ แต่การส่งที่โดนใจสาวที่สุด คือ เมื่อไม่มีโอกาสใด ๆ แต่เซอร์ไพรส์ จะทำคะแนนทะลุเกิน 100
v ส่งอย่างไร : การส่งดอกไม้จากมือคุณเอง เป็นวิธีที่ผู้รับประทับใจที่สุด ยิ่งถ้าส่งที่ออฟฟิศยิ่งดี เพราะไม่เพียงเธอได้อวดเพื่อนร่วมงานว่ามีชายหนุ่มนิสัยน่ารักคอยใส่ใจ แต่คุณยังทำให้คนรอบตัวเธอมองว่าเธอเป็นคนยอดเยี่ยมและคุณโชคดีที่มีเธอเคียงข้าง หรือสั่งให้ส่งที่ทำงานแต่เช้า เตรีมเป็นเซอร์ไพร์สก่อนเธอเข้าออฟฟิศ หรือสั่งให้ส่งขณะที่คุณอยู่กับเธอ เพื่อจะได้เห็นปฏิกิริยาเธอขณะอ่านการ์ดที่คนเขียนแนบมา แค่นี้ไม่แค่หญิงสาวจะอิ่มเอม เธอจะทำให้คุณมีความสุขมากเท่าเธอเช่นกัน
v เลือกดอกไม้ถูก ความหมาย และส่งไปเซอร์ไพรส์ด้วยตัวเอง แค่นี้ก็ได้คะแนนเพียบ

ที่มา : Lisa

25.11.08

ความหมายดี ๆ ของดอกไม้

ความหมายดี ๆ ของดอกไม้
ดอกไม้ทุกดอก มีความหมายซ่อนอยู่ด้วย ดอกไม้จึงได้ชื่อว่าเป็นสื่อแทนใจคนทั้งโลก คงโรแมนติกน่าดูถ้าคนที่รับจะได้รู้คุณ โดยไม่ต้องเอ่ยปากบอกออกมาเลย

ดอกคาร์เนชั่นสีแดงเข้ม : สำหรับหัวใจที่แห้งเหี่ยว
ดอกคาร์เนชั่นสีเหลือง : สำหรับเธอผู้บริสุทธิ์ และน่ารัก
ดอกทิวลิป : ฉันเสียสละทุกอย่างได้เพื่อคุณ
ดอกทิวลิปสีแดง : ฉันรักคุณ
ทิวลิปเหลือง : ฉันหมดหวังในรักของเธอแล้ว
ทิวลิปหลายสีในช่อเดียวกัน : ดวงตาแสนสวยของเธอทำให้ฉันคลั่งไคล้
ลิลลี่ : รักของฉันอ่อนหวาน บริสุทธิ์ และจริงใจ
ดอกป๊อปปี้สีแดง : ฉันจะค่อยปลอบโยนเธอเอง
ดอกป๊อปปี้สีขาว : ฉันเผลอรักคุณเข้าแล้ว
ดอกป๊อปปี้สีม่วง : ฉันฝันเห็นหน้าเธอทุกคืน
ดอกไอวี่ : มาแต่งงานกันเถอะ
ดอกไอวี่สีเหลือง : ฉันหลงใหลในตัวคุณ
ดอกโรสแมรี่ : การที่คุณเข้ามาในชีวิต ทำให้ผมมีชีวิตชีวา
ดอกแจสมินอินเดีย : ฉันเชื่อคุณ คุณเป็นคนสำคัญของฉัน
คาร์เนชั่น : รู้ตัวหรือเปล่าว่าเธอมีเสน่ห์ดึงดูดใจมากกว่าใคร ๆ
คาร์เนชั่นสีแดง : เห็นใจในความรักของฉัน

ที่มา : Spicy

24.11.08

ความหมายดี ๆ ของดอกกุหลาบสีต่าง ๆ

ความหมายดี ๆ ของดอกกุหลาบ
ดอกไม้ทุกดอก มีความหมายซ่อนอยู่ด้วย ดอกไม้จึงได้ชื่อว่าเป็นสื่อแทนใจคนทั้งโลก คงโรแมนติกน่าดูถ้าคนที่รับจะได้รู้คุณ โดยไม่ต้องเอ่ยปากบอกออกมาเลย

ดอกกุหลาบตูมสีขาว : แด่เธอ...ที่ไม่มีความรู้สึก
ดอกกุหลาบขาว : เธอมีค่าสำหรับฉัน
ดอกกุหลาบดอกเดียว : สำหรับเธอคนขี้เหร่
ดอกกุหลาบสีแดงสด : อายจัง
ดอกกุหลาบสีแดงสด : สำหรับคนสวยที่สุดของฉัน
ดอกกุหลาบไร้หนาม : เธอคือรักแรกของฉัน
ดอกกุหลาบสีขาวและแดงคู่กัน : มารวมใจกันเป็นหนึ่งเดียวกันเถอะ
กุหลาบสีขาว : ฉันรักเธอด้วยใจบริสุทธิ์
กุหลาบสีชมพู : คุณช่างงดงามและอ่อนโยนเหลือเกิน
ดอกกุหลาบสีเหลือง : อิจฉาริษยา

21.11.08

10 ดอกไม้โปรดในดวงใจสาว ๆ (จบ)

10 ดอกไม้โปรดในดวงใจสาว ๆ (จบ)

เยอบีร่า (Gerbera)
ไม้ดอกสวยงามชนิดหนึ่งซึ่งมีการปลูกกันมานานหลายสิบปี จนกระทั่งเข้าใจผิดคิดว่าเป็นไม้ดอกของไทยเอง แต่ความจริงแล้วเยอบีร่ามีถิ่นกำเนิดอยู่ในแอฟริกาใต้ เยอบีร่าไม้ดอกที่ให้ดอกสีสวยสดใสและคงทนอยู่นาน แม้จะตัดออกมาปักแจกันหลายวัน นอกจากนี้เยอบีร่ายังเป็นไม้ประดับอีกชนิดหนึ่งที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่ามีประสิทธิภาพสูงในการดูดสารพิษภายในอาคารได้อย่างดีเยี่ยม มีอัตราการคายความชื้นสูง ประกอบกับมีความสวยงาม จึงเหมาะแก่การปลูกไว้ประดับในอาคารสำนักงานและบ้านเรือน

คาร์เนชั่น (Carmation)
คาร์เนชั่นเป็นไม้ดอกยอดนิยมอีกชนิดหนึ่ง มีทั้งชนิดดอกเดี่ยวและดอกช่อ มีหลายพันธุ์ ดอกมีหลายสี ทั้งสีขาว สีเหลือง สีชมพู สีส้ม สีแดง และม่วง บางพันธุ์ก็มีสีมากกว่าหนึ่งสีในดอกเดียวกัน และบางพันธุ์ยังมีกลิ่นหอมอีกด้วย ถึงแม้คาร์เนชั่นจะมีกลีบดอกแบบบาง แต่ก็ทนทาน สามารถปลูกได้ดีในที่มีอากาศหนาวเย็น ดอกคาร์เนชั่นเป็นดอกไม้ที่ใช้แทนความรู้สึกของความรักที่ไม่หวังสิ่งตอบแทนใด ๆ ซึ่งแต่ละสีแทนความหมายต่างกัน อาทิ สีแดงหมายถึง ความชื่นชม ศรัทธา หรือสีชมพู หมายถึง ความรักที่แรกแย้ม ไร้เดียงสา

อ่านจนครบทั้ง 10 ชนิด หนุ่มสาว Spicy ชักอยากหาดอกไม้ที่ว่าไปมอบให้หวานใจกันแล้วใช่มั้ยเอ่ย ก็แหม... แต่ละชนิดทั้งสวยแถมมีความหมายที่ลึกซึ้งอีกต่างหาก แล้วจะช้าอยู่ไยคะ รีบตรงไปร้านดอกกันได้เลย

ที่มา : Spicy

20.11.08

10 ดอกไม้โปรด ในดวงใจสาว ๆ (4)

10 ดอกไม้โปรด ในดวงใจสาว ๆ (4)

กล้วยไม้ (Orchid)
นอกจากรูปทรงของกลีบที่สวยงามมีมากมายหลายพันธุ์ กล้วยไม้ก็ถือเป็นไม้มงคลอีกชนิดที่จะช่วยเสริมในเรื่องของความมีคุณธรรม อันล้ำลึกได้อย่างมหัศจรรย์ คนโบราณเชื่อกันว่าถ้าบ้านใดปลูกกล้วยไม้คนในบ้านก็จะมีจิตใจสงบอ่อนโยน มีความสุขุมลุ่มลึก ใจที่ร้อนวู่วามก็จะเยือกเย็นลงและมีความละเอียดซึ้งมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “คัทลียา” (Cattleya) เป็นกล้วยไม้ที่เสริมด้านเกียรติยศและความสูงส่งได้เป็นอย่างดี ในภาษารัก การมอบดอกกล้วยไม้ให้อีกฝ่ายจะหมายถึง “สุดจะหักใจไม่ให้คิดถึง”

ไลแลค (Lilac)
เรียกว่าเป็นอกไม้ที่ฮอตฮิตมาก ๆ ในนวนิยายหรือซี่รีส์เกาหลี โดยเป็นดอกไม้ที่กล่าวแทนความรู้สึกของตัวละคร หรือกล่าวในบทบรรยายถึงทัศนียภาพที่ปรากฏในนวนิยายหรือซี่รี่ส์ ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะความหมายของดอกไลแลคสีม่วงที่สื่อถึงคามรักครั้งแรกที่หวานฉ่ำ อีกส่วนก็น่าจะมาจากความสวยงามตามธรรมชาติอันเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของมัน ไลแลคเป็นไม้ดอกที่นิยมปลูกมากในสวน เนื่องจากเป็นไม้ที่มีลักษณะเป็นพุ่มและมีดอกที่สวงยงาม นอกจากนี้ดอกไลแลคยังสามารถนำไปทานได้ด้วย
มีต่อ

19.11.08

10 ดอกไม้โปรดในดวงใจสาว (3)

10 ดอกไม้โปรดในดวงใจสาว (3)

เดซี่ (Daisy)
ดอกไม้ที่เป็นตัวแทนของความสดในของฤดูร้อน ด้วยสีสันสดใสและรูปทรงอันกระจุ๋มกระจิ๋มของมัน เดซี่จึงเป็นดอกไม้ที่เหมาะแก่การมอบให้คนรักเพื่อแทนความรู้สึกถึงความรักอันเปี่ยมไปด้วยความบริสุทธิ์ ไร้เดียงสา และภักดีจากตำราทายนิสัยจากดอกไม้โปรดกล่าวว่า คนที่ชอบดอกเดซี่มักเป็นคนเรียบง่าย สบาย ๆ ไม่ค่อยจริงจังมากนัก มีลักษณะของการผ่อนปรนสูง จึงมักจะมีเพื่อนมากมาย ใคร ๆ ก็อยากอยู่ด้วย เพราะไม่คิดมาก ไม่เรื่องมาก แถมยังชอบรักษาน้ำใจคนอื่นอีกด้วย

ฟอร์เก็ตมีน็อต (Forget me not)
เป็นดอกไม้ที่ใช้แทนความรู้สึกของผู้ให้ได้อย่างตรงใจและตรงชื่อสุด ๆ สำหรับ Forget me not สำหรับชื่อของดอกไม้ชนิดนี้มีที่มาจากตำนานที่ว่า กาลครั้งหนึ่งมีอัศวินฝรั่งเศสผู้หนึ่งรักอยู่กับนางใน และในวันหนึ่งขณะที่อัศวินเอื้อมมือไปเด็ดดอกไม้ที่ริมน้ำเพื่อมอบให้กับหญิงสาว อัศวินก็ได้พลัดตกลงไปในน้ำ แต่ก่อนที่จะจมน้ำหายไปนั้นอัศวินก็ได้โยนดอกไม้ขึ้นมาให้เธอ พร้อมกับตะโกนว่า “อย่าลืม” ต่อมาจึงได้เรียกดอกไม้ดอกนี้ว่า “Forget me not”

มีต่อ

18.11.08

10 ดอกไม้โปรด ในดวงใจสาว ๆ (2)

10 ดอกไม้โปรด ในดวงใจสาว ๆ (2)

ทิวลิป (Tulip)
สัญลักษณ์ของประเทศเนเธอร์แลนด์ ซึ่งในอดีตชาวเติร์กและชาวเปอร์เซียเคยปลูกมาแต่สมัยโบราณ ความสวยงามของมันเป็นที่คลั่งไคล้ของชาวดัชท์ถึงขั้นที่ครั้งหนึ่งทิวลิปสีขาวและแดงมารูน หรือ “Rembrandt Type” หรือ “Semper August “ ราคาสูงถึงดอกละ 4,500 กิลเดอร์ (ราคาประมาณ 2,250 เหรียญสหรัฐ ฯ ในปัจจุบัน) และมีขายเพียง 12 ดอกเท่านั้น เหตุที่คน (โดยเฉพาะชาวดัชท์) ชื่นชอบดอกทิวลิปนั้น เหตุผลหลักมาจากความสวยงามและแปลกตาของรูปทรงดอก

ไฮเดรนเยีย (Hydrangea)
ไฮเดรนเยียที่ปลูกในปัจจุบันนั้นมีอยู่ 2 พันธุ์ คือ ไฮเดรนเยียธรรมดา และไฮเดรนเยียด่าง ความมหัศจรรย์ของพืชชนิดนี้ก็คือ ดอกของไฮเดรนเยียสามารถเปลี่ยนสีจากชมพูเป็นฟ้า เปลี่ยนจากสีฟ้าเป็นสีชมพู ได้ตามค่าพีเอช (pH) น้อยกว่า 5.5 จะทำให้ดอกเป็นสีม่วงหรือฟ้า แต่ถ้าดินมีฤทธิ์เป็นด่างหรือมี pH มากกว่า 5.5 ก็จะทำให้ดอกเป็นสีชมพูหรือแดง สำหรับคนที่กำลังมีความรัก แนะนำให้ใช้ไฮเดรนเยียเป็นสื่อโดยบอกให้คนที่คุณรักเอาน้ำที่มีฤทธิ์เป็นด่างไปรดต้นไฮเดรนเยีย เพื่อทำให้ดอกเปลี่ยนเป็นสีชมพูหรือแดง แทนความรู้สึกของคุณไงคะ

มีต่อ

17.11.08

10 ดอกไม้โปรด ในดวงใจสาว ๆ

10 ดอกไม้โปรด ในดวงใจสาว ๆ
กุหลาบ (Rose)
ด้วยความงามยากที่ไม้ดอกชนิดอื่นจะเทียบ กุหลาบจึงได้รับฉายาว่า “ราชินิแห่งดอกไม้” ไปอย่างเต็มภาคภูมิ นอกไปจากความสวยของกลีบดอกที่เรียงตัวทีละชั้น ๆ อย่างเป็นเอกลักษณ์แล้ว สีสันที่หลากหลายและกลิ่นหอมอันเย้ายวนของกุหลาบก็เป็นอีกเสน่ห์ที่ทำให้ดอกกุหลาบเป็นดอกไม้ที่โดนใจหญิงสาวหลาย ๆ คน และเป็นที่นิยมตลอดปี โดยเฉพาะช่วงเทศกาลวันวาเลนไทน์ กุหลาบจะถูกนำมามอบให้คนที่รักเพื่อความรู้สึกต่าง ๆ อาทิ กุหลาบสีแดง หมายถึงรักแท้ กุหลาบสีขาว หมายถึง ความรักที่บริสิทธิ์ไม่หวังสิ่งตอบแทน

ลิลลี่ (Lily)
ดอกไม้เก่าแก่ที่สุดชนิดหนึ่งของโลก (ถูกพบเป็นภาพวาดบนผนังและกำแพงในราชสำนักกรีกโบราณ) เป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์ ซึ่งเจ้าสาวนิยมถือในงานแต่งงาน ด้วยความโดดเด่นของรูปลักษณ์ที่มีขนาดใหญ่และสวยงาม อีกทั้งบางพันธุ์ยังมีกลิ่นที่หอมมาก ลิลลี่จึงเป็นดอกไม้ที่เหมาะแก่การจัดเป็นช่อและส่งเพื่อสร้างความประทับใจให้แก่อีกฝ่าย โดยเฉพาะถ้าคนรักมอบให้แก่กันจะหมายถึงอีกฝ่ายเป็นคู่รักที่เพอร์เฟ็คท์ หรือบางทีก็หมายถึงผู้ที่ได้รับเป็นคนที่มีความงามที่บริสุทธิ์มากก็เป็นได้

มีต่อ

16.11.08

ดอกไม้ประจำราศีต่าง ๆ

ดอกไม้งามตามราศี
ชื่อประจำราศี
ชื่อดอกไม้ประจำราศี
ราศีมังกร
คาร์เนชั่น พุซซี่วิลโล่ว์ สโนว์ดร็อป Capricon Carnation,Pussy Willow,Snowdrop
ราศีกุมภ์
ทิวลิป ไวโอเล็ด บูวาร์เดีย Aquarius Tulip,Violet, Bouvardia
ราศีมีน
แดฟโฟดิล รานังคูลัส ฟรีเซีย Pisces Daffodil, Ranunculus,Freesia
ราศีเมษ
สวีทฟี เดซี่ อนี โมเน่ Aries Sweet Pea, Daisy, Anemone
ราศีพฤษภ
ลิลี่-ออฟ-เดอะ-วาลลี่ ลิลี่ อัลสโตรมีเรีย Taurus Lilly-of-the-Valley, Lilly, Alstroemeria
ราศีเมถุน
กุหลาบ โบตั๋น Gemini Roes, Peony
ราศีกรกฎ
เดลฟีเนียม ลาร์คสปอร์ บัวสาย Cancer Delphinium, Larkspur,Water Lily
ราศีสิงห์
แกลดิโอลลัส เออร์ลิเซีย ป๊อปปี้ Leo Gladiolus, Erlicheer, Poppy
ราศีกันย์
บรัซซิ่งไบรด์ กล้วยไม้ แอสเตอร์ Virgo Brushing Bride, Orchid, Aster
ราศีตุลย์
ดองดึงส์ ดาวเรือง เยอบีร่า Libra Gloriosa, Marigold, Gerbera
ราศีพิจิก
เบญจมาศ แคลล่า หน้าวัว Scorpio Chrysanthemum, Calla, Anthurium
ราศีธนู
ไฮยาซินธ์ นาซิสซัส ฟ็อยเซ็ทเนีย Sagittarius Hyacinth, Narcissus, Poinsettia

15.11.08

ความหมายของดอกไม้ต่างๆ ต้อนรับวาเลนไทน์

ความหมายของดอกไม้ต่างๆ ต้อนรับวาเลนไทน์

วันวาเลนไทน์ทั้งที คุณผู้ชายถึงชอบซื้อแต่ดอกไม้ให้ผู้หญิงกันนะ คุณผู้หญิงเคยสงสัยกันบ้างมั๊ยล่ะคะ ถ้าสงสัยกันอยู่ ก็เลิกสงสัยกันได้แล้วล่ะคะ ก็เพราะว่าดอกไม้นั้นเป็นตัวแทนของความสวย ความงาม และความอ่อนโยน เปรียบประดุจผู้หญิงได้ดั่งกับดอกไม้ ที่มีทั้งความงามและความน่ารักอยู่ภายในตัวเอง ถึงจะเป็นแค่ดอกไม้ แต่คุณรู้หรือเปล่าว่า ดอกไม้เหล่านี้ล้วนแต่สื่อความหมายและแทนความรักได้หลากหลายรูปแบบ และแตกต่างกันไปตามโอกาส และบุคคลที่เราอยากจะให้ได้ด้วย มาดูกันดีกว่าว่าดอกไม้แต่ละประเภทสื่อความหมาย แทนใจว่าอย่างไรกันบ้าง

กุหลาบแดง ( RED ROSE )ใช้ในความหมายแทนคำว่า "ฉันรักเธอ" การให้ดอกกุหลาบแดงกับคนที่คุณรัก หมายถึง ความรักอันลึกซึ้งและจริงจัง ถ้าชายหนุ่มคนใดมอบอกกุหลาบแดงให้แก่หญิงสาว สื่อความหมายแสดงถึงมีความตั้งใจที่จะใช้ชีวิตคู่ร่วมกัน หรืออีกนัยหนึ่งคือ ความรักและความปรารถนา เป็นดอกไม้ของคิวปิดและอีรอส ( กามเทพหรือเทพแห่งความรัก ) นั่นเอง เป็นสิ่งที่จะนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับ

กุหลาบขาว ( WHITE ROSE ) สีขาวเป็นสีแห่งความบริสุทธิ์ ความมีเสน่ห์ และความเงียบสงบ กุหลาบขาวจึงแทนความหมายแห่งความรักที่บริสุทธิ์ ให้โดยไม่หวังสิ่งตอบแทน ดังนั้น เราจึงสามารถให้ดอกกุหลาบสีขาวกับพ่อแม่ เพื่อน หรือคนที่เรารู้สึกดีด้วยอย่างบริสุทธิ์ใจได้ และจะเป็นสิ่งที่นำโชคมาสู่ผู้ที่ได้รับเช่นเดียวกับกุหลาบแดง

กุหลาบสีชมพู ( PINK ROSE )มักใช้แทนความรักแบบสนิท เสน่หาและโรแมนติก การให้กุหลาบสีชมพูต่อคู่รัก สื่อให้เห็นว่าความรักเริ่มเจริญงอกงาม และกำลังจะพัฒนาไปสู่ความลึกซึ้งจริงจัง หรืออีกนัยหนึ่ง คือ ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์ที่สุด

กุหลาบเหลือง ( Yellow ROSE )สีเหลืองเป็นสีแห่งความสดใส กุหลาบสีเหลืองมักถูกใช้แทนความรัก ความปรารถนาดี เช่น ใช้เยี่ยมผู้ป่วย เพื่อช่วยเพิ่มความสดชื่นแจ่มใสให้กับผู้ป่วยกุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัยกุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น

ดอกทิวลิปสีแดง ( RED TULIP ) เป็นดอกไม้ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้ดอกกุหลาบสีแดงเลยทีเดียว และความหมายก็สื่อ แสดงออกถึงความรัก ความจริงใเช่นเดียวกัน แต่ดอกทิวลิปสีแดงนั้น จะแสดงออกถึงความรักที่ร้อนแรงและเปิดเผยไปสักหน่อย คุณจึงต้องเตรียมตัวรับมือกับความรักที่ร้อนแรง และเปิดเผยไว้ให้ดีถ้าใครให้ดอกทิวลิปสีแดงกับคุณ

ดอกคาร์เนชั่นสีชมพู ( PINK CARNATION ) เป็นดอกไม้ที่หนุ่มสาวใช้ในโอกาสบอกความในใจซึ่งกันและกัน เช่น "รักคุณคนเดียวตลอดไป" หรือ "คุณคือดวงใจของผม"

ดอกลิลลี่สีขาว ( WHITE LILLY ) สีขาวแสดงถึงความรักที่บริสุทธิ์ และดอกลิลลี่สีขาวยังสื่อถึงความรักที่อ่อนหวาน ชื่นชมจริงใจ จึงมักใช้ในโอกาสที่ชายหนุ่มอยากทำความรู้จักกับหญิงสาว
ดอก FORGET-ME-NOTให้ความหมายตรงตัวอยู่แล้ว และยังสื่อถึงการเตือน ความทรงจำให้รักกันตลอดกาลนาน หรือบอกเป็นนัย ๆ ว่า "โปรดอย่าลืมฉันนะ"

นอกจากนี้จำนวนของดอกไม้ที่ให้ ก็สามารถสื่อความหมายแทนใจของผู้ให้ได้ด้วย ว่าผู้ให้ต้องการจะสื่อหรือบอกเป็นนัย ๆ กับผู้รับว่าอย่างไร ซึ่งบางครั้งผู้ให้ไม่สามารถบอกความรู้สึกออกมาตรง ๆ หรือพูดออกมาได้ จึงจำเป็นต้องใช้ดอกไม้และจำนวนที่ให้เป็นตัวสื่อให้ ผู้รับได้รับรู้ ถ้าคุณยังไม่รู้ความหมายของจำนวนดอกไม้แล้วล่ะก็ รีบรู้ไว้ได้แล้วล่ะ... เพื่อเตรียมตัวไว้เป็นทั้งผู้ให้และผู้รับในเวลาเดียวกัน
- ให้ 1 ดอก บอกให้รู้ว่า "รักนี้เป็นรักแรกของผม"
- ให้ 2 ดอก บอกให้รู้ถึง เกิดความรู้สึกคิดถึงและผูกพันเข้าแล้ว
- ให้ 3 ดอก บอกความในใจว่า "รักคุณเข้าแล้วเต็มทรวง"
- ให้ 7 ดอก บอกถึงความรู้สึกอยากเห็นหน้าทุกลมหายใจ ประมาณว่าไม่ได้เห็นหน้า เห็นแค่หลังคาบ้านก็ยังดี เขาหลงไหลคลั่งไคล้คุณมาก
- ให้ 9 ดอก บอกความในใจอย่างชัดเจนว่า "I LOVE YOU FOREVER"หรือถ้ารักกันมานานจนความรักสุกงอมถึงขั้นขอแต่งงานเลยก็ได้
- ให้ 10 ดอก บอกถึงการยกย่อง เพราะคุณ คือ สิ่งที่ล้ำค่าในชีวิตของเขา
- ให้ 12 ดอก บอกถึงการอ้อนวอนขอให้รักฉันคนเดียวนะ
- ให้ 13 ดอก บอกความในใจว่า "ความปรารถนาดีมีให้กับเพื่อน" เตือนให้รู้ว่าเขาคบเราแค่เพื่อนเท่านั้น
- ให้ 15 ดอก บอกความในใจ หรือ ขอโทษที่แอบไปกิ๊กคนอื่น เช่น ขอโทษนะ ยกโทษให้ด้วยเถอะที่รัก
- ให้ 20 ดอก บอกให้รู้ว่า รักฉันนั้นมีให้กับเธอแต่เพียงผู้เดียว- ให้ 36 ดอก บอกให้รู้ว่า แม้เวลาจะผ่านไปเนิ่นนานเพียงใด แต่ความรักที่ฉันมีให้เธอไม่เคยจะลดน้อยถอยลงเลย มีแต่จะเพิ่มมากขึ้น ๆ - ให้ 40 ดอก บอกความในใจ "ใช่เลยคนนี้แหละ แฟนฉัน"
- ให้ 99 ดอก บอกความในใจ "รักเธอคนเดียวชั่วฟ้าดินสลาย"- ให้ 100 ดอก บอกความในใจ "หัวใจฉันมีเธอครอบครองเพียงคนเดียว"

เป็นอย่างไรกันบ้าง... กับความหมายของดอกไม้และจำนวนดอกไม้แต่ละดอกที่คุณอาจจะเป็นผู้ให้ หรือผู้รับ ปีที่แล้วเคยได้กี่ดอก รีบนึกกันใหญ่เชียว ส่วนปีนี้... สำหรับสาว ๆ ที่ได้ดอกไม้ก็อย่าเพิ่งดีใจกระโดดโลดเต้นจนเกินงาม หรือมัวแต่เขินอาย จนลืมชายหนุ่มที่อยู่ตรงหน้าคุณกันเสียล่ะ กล่าวขอบคุณเขาสักนิด เพียงแค่นี้ก็สร้างความประทับใจให้กับเขาได้มากแล้วล่ะ ที่สำคัญ อย่าลืมนับจำนวนดอกไม้เอาไว้ แล้วมาอ่านความหมายได้ที่เว็บไซต์หรรษาดอทคอมนี่แหละค่ะ จะได้รู้ว่าหมายความที่เขาต้องการสื่อถึงคุณยังไงล่ะ...อย่าลืมนะคะ ความรักสามารถแสดงออกกันได้ทุกวัน ไม่จำเป็นต้องเฉพาะเจาะจงแค่วันใดวันหนึ่ง ถนอมความรักของคุณไว้ให้ดี ก่อนที่จะสูญเสียมันไป เพราะมันจะไม่สามารถกลับคืนมาได้เหมือนดั่งเดิม ความเกรงใจและให้เกียรติซึ่งกันและกันเท่านั้น ที่จะทำให้ความรักยืนยาว...


ที่มา: uthayarn.com

6.11.08

การปลูกไม้ดอกสกุลหน้าวัว

การปลูกไม้ดอกสกุลหน้าวัว (นำมาฝาก)

สามารถปลูกได้ทั้งในกระถางและปลูกลงแปลง ส่าหรับ เกษตรกรไทยนั้นนิยมปลูกในกระถาง เนื่องจากสะดวกในการจำหน่ายต้นพันธุ์ อย่างไรก็ตามไม่ว่าจะปลูกในกระถางหรือปลูกลงแปลง ควรเลือกเครี่องปลูกให้ เหมาะสม ส่าหรับในประเทศไทยเครื่องปลูกที่ดีที่สุดคือ อิฐมอญทุบขนาดเส้นผ่า ศูนย์กลาง l.5 - 3.0 เชนติเมตร เพราะสามารถเก็บความชื้นได้ดีและมีความคงทน สูง นอกจากนี้การเลือกขนาดอิฐทุบที่เหมาะสม ยังทำให้สามารถควบคุมการระบาย อากาศได้ตามต้องการอีกด้วย อนึ่งการปลูกด้วยอิฐมอญทุบในสภาพที่ค่อนข้าง แห้ง อาจเติมถ่านแกลบหรือกาบมะพรัาวสับเพี่อช่วยเก็บความชื้นคัวยก็ได้

ที่มา : geocities.com

5.11.08

การปลูกดอกไม้ของความรัก

การปลูกดอกไม้ของความรัก

เมื่อคุณคิดที่จะมีความรัก.....มันก็เหมือนกับว่าคุณกำลังคิดที่จะปลูกดอกไม้สักดอกหนึ่งแต่มันก็ไม่ได้หมายความว่า ดอกไม้ของคุณจะเจริญเติบโตได้อย่างสวยงามโดยที่คุณไม่ต้องทำอะไรเลยดอกไม้ของคุณก็สามารถที่จะเติบโตได้เอง

บางครั้งปลูกดอกไม้ของคุณอาจจะไม่สวยงาม อย่างที่คุณได้วาดฝันไว้ อาจจะมีตายบ้าง เหี่ยวเฉาบ้าง ถ้าหากคุณไม่ดูแลรักษามันไว้ให้ดีดอกไม้แต่ละดอก มีพื้นฐานความต้องการที่แตกต่างกันดอกไม้บางชนิดอาจเจริญงอกงาม ในสถานที่แห้งแล้งได้อย่างดีแต่ในทางกลับกันดอกไม้บางชนิดก็ไม่สามารถที่จะเจริญงอกงามได้ในพื้นที่แห้งแล้งเหล่านั้นได้

คุณจึงจำเป็นที่จะต้องคอยดูแลเอาใจใส่ดอกไม้ของคุณอยู่เสมอถ้าหากคุณยังอยากจะให้ดอกไม้ของคุณสวยงาม...คุณต้องคอยมั่นรดน้ำ พรวนดิน ใส่ปุ๋ย ให้มันอย่างสม่ำเสมอดอกไม้ของคุณถึงจะออกดอกผลิใบ อย่างที่คุณต้องการ....

แต่เมื่อใดแล้วที่คุณละเลย ไม่คอยดูแลเอาใจใส่ดอกไม้ของคุณเมื่อนั้นแหละ เจ้าดอกไม้ที่คุณสู้อุตส่าห์ ถนุถนอมมันมานานแรมปี หรือแม้กระทั่งชั่วชีวิตของคุณ มันก็พร้อมที่จะแห้งตาย อย่างไม่มีวี่แววมาก่อนต่อให้เจ้าดอกไม้ของคุณนั้นมันอดทนต่อสภาพดินฟ้าอากาศแค่ไหนมันก็ย่อมมีวันที่จะแห้งเหี่ยวตายลงไปได้เช่นกัน...

ความรัก...ของคนเรา ก็เปรียบได้เช่นเดียวกับการปลูกดอกไม้สักดอกหนึ่งที่ต้องการการดูแลเอาใจใส่อย่างเสมอต้นเสมอปลาย... และต้องการความเข้าใจอย่างแท้จริง...จากบุคคลอันเป็นที่รัก....

ที่มา : porasit.exteen.com

4.11.08

การปลูกดาวเรือง

การปลูกดาวเรือง (นำมาฝาก)

ดาวเรืองรองก้นหลุมด้วยปุ๋ยเคมีสูตรต่ำ ๆ เช่น 10-20-10 หรือ 15-15-15 หรือ 16-16-16 หรือใกล้เคียง หลุมละ 1 ช้อนชา เกลี่ยดินกลบเม็ดปุ๋ยเล็กน้อย เพียงเพื่อไม่ให้รากดาวเรืองสัมผัสกับปุ๋ยโดยตรง เพราะจะทำให้ใบไหม้อันเป็นเหตุให้ต้นเหี่ยวและตาย ถอดถุงออกก่อนปลูก ปลูกหลุมละ 1 ต้น กลบดินให้เสมอใบเลี้ยงหรือสูงกว่าใบเลี้ยงเล็กน้อย รดน้ำให้ชุ่ม ถ้าปลูกจากต้นกล้า ใน 1-2 วันแรก รดน้ำวันละ 2-3 ครั้ง เพื่อประคองไม่ให้ต้นเหี่ยว หลังจากรากงอกและต้นตั้งตัวได้แล้ว รดน้ำตามความจำเป็น

ที่มา : geocities.com

3.11.08

วิธีการปลูกกุหลาบ

วิธีการปลูกกุหลาบ

กุหลาบ อาจปลูกแบบเจาะหลุมปลูกหรือแยกแปลงปลูกก็ได้โดยวัดขนาดแปลงปลูกกว้าง 1 .20 เมตร เว้นทางเดิน 1 เมตร ความยาวของแปลงปลูกตามขนาดของพื้นที่ และใช้ ระยะปลูก 60 x60 เซนติเมตร ซึ่งจะได้จำนวนต้นประมาณ 2,000 ต้นต่อไร่ (หรือ ทำแปลงปลูกกว้าง 1เมตร เว้นทางเดิน 1 เมตร และใช้ระยะปลูก 50 x 50 เซนติเมตร สำหรับพันธุ์กุหลาบที่ขนาดของทรงพุ่มไม่แผ่กว้างมากนัก)ก่อนปลูกควรหว่าน ปูนขาวและไถพรวนตากดินไว้ให้แห้ง

ที่มา : geocities.com

1.11.08

ดอกไม้ ให้ความหมายของการบอกรักได้ดีที่สุด

ของขวัญวันวาเลนไทน์ ของขวัญที่นิยม ของขวัญแทนใจวันแห่งความรัก

ดอกไม้ ให้ความหมายของการบอกรักได้ดีที่สุด ที่ฮิตสุดเห็นจะเป็น
- กุหลาบแดง หมายถึง ความรักและความปรารถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ เป็นสิ่งนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับ
- กุหลาบขาว หมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ ความเงียบสงบ และนำโชคมาสู่ผู้หญิงที่ได้รับเช่นเดียวกับดอกกุหลาบแดง
- กุหลาบสีชมพู หมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์ที่สุด
- กุหลาบสีเหลืองหรือสีส้ม หมายถึง ความรักร้อนแรงและยาวนาน ไม่จืดจาง หวานชื่น และมีความสุข
- กุหลาบตูม หมายถึง ความรักและความเยาว์วัย
- กุหลาบบาน หมายถึง ความรักที่กำลังเบ่งบาน ความอ่อนหวาน สดชื่น สําหรับคนที่อยากได้อะไรแตกต่างยังมีดอกอื่นๆ อาทิ
- ดอกคาร์เนชั่นสีแดง หมายถึง รักอย่างสุดซึ้ง,
- ดอกลิลลี่สีขาว หมายถึง ความโรแมนติก อ่อนหวานระหว่างคุณและคนรัก,
- ดอกทิวลิปสีแแดง หมายถึง ความรักที่จะร่วมฟันฝ่าไปด้วยกัน และ
- ดอกไวโอเล็ต ที่แทนความหมายของการให้รักตอบแทน

ช็อกโกแลต นักจิตวิทยาหลายคนเชื่อว่า ช็อกโกแลตเป็นตัวช่วยเสริมอารมณ์รัก และรสชาติความหวานก็เป็นสิ่งที่แทนความรู้สึกวันแห่งความรักได้อย่างดี และยังมีการพิสูจน์ทางวิทยาศาสตร์ว่าในช็อกโกแลตมีสารช่วยกระตุ้นสมองโดยออกฤทธิ์คล้าย แอมเฟตามีน เป็นตัวเบิกทางความรู้สึกลึกๆแห่งรักได้ดี

การ์ด อันนี้เป็นของจําเป็นควบคู่ไปกับดอกไม้ และช็อกโกแลต เลือกตามแบบที่ชอบ เขียนความในใจตามแบบที่อยากให้คนที่ได้รับอ่านแล้วเข้าใจในทันที แถมหาซื้อไม่ยากด้วย

ตุ๊กตา เป็นสิ่งที่ให้กันได้ทุกเทศกาลอยู่แล้ว แต่พิเศษสําหรับวันแห่งความรักคงต้องเลือกสรรให้น่ารัก น่าประทับใจแทนความหมายได้ทุกอารมณ์แล้วแต่คุณจะหยิบแบบไหน

เทียนหอม มาแรงในหมู่หนุ่มสาวชาวไทย ที่สื่อได้ทั้งความหมายจากรูปทรงหัวใจ และให้กลิ่นหอมชวนหลงใหลตามแต่ใครจะเลือกได้ถูกใจอีกฝ่ายแค่ไหน

มื้อค่ำ ขาดไม่ได้เลยสำหรับมื้อพิเศษในวันแห่งความรัก ไม่ว่าจะเป็นสถานที่แบบไหน ในบ้าน ร้านอาหาร หรือริมทะเล แต่ขอให้มีแต่คุณและคนรักไปกันสองคนก็แล้วกัน


ที่มา : zabzaa.com

25.10.08

ม หั ศ จ ร ร ย์ Unseen กุหลาบขาวดอยเชียงดาว

ม หั ศ จ ร ร ย์ Unseen กุหลาบขาวดอยเชียงดาว

กุหลาบขาวจากหิมาลัย ดอกไม้งามบนภูสูง กลีบสีขาวอมชมพูบอบบาง ล้อเล่นลมอยู่บนยอดเขาหินปูน สูงตระหง่านถึง 2,100 เมตร จากระดับน้ำทะเล ถิ่นกำเนิด คือ บนเทือกเขาหิมาลัยอัน ไกลโพ้น ใครจะเชื่อว่า เธอเติบโต เบ่งบาน และอวดโฉมได้บนดอยไทย ดอยเชียงดาว ด้วยความสูง 2,100 เมตร จากระดับน้ำทะเล และครองความสูงเป็นอันดับ 3 ของภูเขาในประเทศไทย

ดอยเชียงดาวจึงกลายเป็นผาตระหง่านที่ท้าทายวิญญาณ นักผจญภัยรุ่นแล้วรุ่นเล่าให้บุกบั่นขึ้นไปสัมผัสแม้เพียงสักครั้งในชีวิต โดยเฉพาะ ในช่วงฤดูหนาวที่อาจพบทะเลหมอกอันงดงามได้ในทุกเช้าตรู่ และเฝ้าคอยยลภาพ ตะวันตกดินลับเหลี่ยมเขาดอยสามพี่น้องในยามเย็น เชียงดาวแห่งจังหวัดเชียงใหม่ ยังยิ่งใหญ่ในฐานะภูเขาหินปูนลูกเดี่ยวที่สูงที่สุดของไทย มีอากาศหนาวเย็น จึงก่อให้เกิดอาณาจักรพรรณไม้กึ่งอัลไพน์แสนมหัศจรรย์แหล่งท่องเทียวใกล้เคียง ถ้ำเชียงดาว ดอยอ่างขาง กิจกรรมที่น่าสนใจ ล่องแพแม่ตะมาน หรือขี่ช้างที่ปางช้างแม่ตะมาน

วันเวลาที่แนะนำ ช่วงที่ดีที่สุดในการเที่ยวชมพันธ์ไม้บนดอยเชียงดาวคือหลังฤดูฝน ราวเดือนตุลาคมเป็นต้นไป จนถึงฤดูร้อน ระหว่างเดือนมีนาคม – เมษายน คือวันเวลาที่กุหลาบขาวเชียงดาวออกดอกสะพรั่ง

การเดินทาง จากตัวเมืองเชียงใหม่ ใช้ทางหลวงหมายเลข 107 เชียงใหม่-ฝาง ประมาณหลักกิโลเมตรที่ 71-72 แยกซ้ายที่บ้านแม่นะ สู่หน่วยพิทักษ์ป่าเด่นหญ้าขัด จากนั้นต้องเดินเท้าอีก 5-7 ชั่วโมง ขึ้นสู่ดอยเชียงดาว เหมาะสำหรับผู้รักการผจญภัยโดยเฉพาะ สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ติดต่อที่ ททท. ภาคเหนือ เขต 1 โทร. 0-5324-8604, 0-5324-8607

24.10.08

การเตรียมดินและการปลูก

การเตรียมดินและการปลูก

ถึงแม้กุหลาบจะปลูกได้ในดินเกือบทุกชนิด แต่ดินที่ต่างกันก็ย่อมทำให้ การเจริญเติบโตดีเลวต่างกันออกไป ดังนั้นก่อนปลูกควรเตรียมดินดังนี้

ในภาคกลางซึ่งมีสภาพดินค่อนข้างเหนียว และค่อนข้างเป็นกรดจัด ระดับ น้ำใต้ดินสูง เกษตรกรผู้ปลูกกุหลาบจะนิยมปลูกแบบร่องสวน ซึ่งมีคูน้ำคั่นกลาง โดยเริ่มเตรียมดินในฤดูแล้ง คือจะต้องฟันดินและตากดินให้แห้ง เพื่อกำจัดวัชพืช ก่อน ในขณะที่ตากดินนี้อาจโรยปูนขาวลงไปด้วยก็ได้ เมื่อดินแห้งดีแล้วจึงกลับ หน้าดิน และชักดินในแต่ละแปลงให้มีขอบสูง ตรงกลางเป็นแอ่งเล็กน้อย ขนาด ของแปลงกว้างและยาวตามพื้นที่เดิมที่เคยปลูกผักมาแล้ว การวางระยะห่างของ ต้นที่จะปลูกอาจใช้ระยะ 50 x 50 เซนติเมตร จำนวนแถวในแต่ละแปลงไม่ควร เกิน 3 แถว เพื่อความสะดวกในการตัดดอกและตัดแต่งกิ่งตรงแถวกลาง

สำหรับในภาคอื่นที่มีสภาพดินค่อนข้างร่วนหรือดินร่วนปนทราย อาจ ปลูกแบบเจาะหลุมปลูกหรือแยกแปลงปลูกก็ได้โดยวัดขนาดแปลงปลูกกว้าง 1 .20 เมตร เว้นทางเดิน 1 เมตร ความยาวของแปลงปลูกตามขนาดของพื้นที่ และใช้ ระยะปลูก 60 x60 เซนติเมตร ซึ่งจะได้จำนวนต้นประมาณ 2,000 ต้นต่อไร่ (หรือ ทำแปลงปลูกกว้าง 1เมตร เว้นทางเดิน 1 เมตร และใช้ระยะปลูก 50 x 50 เซนติเมตร สำหรับพันธุ์กุหลาบที่ขนาดของทรงพุ่มไม่แผ่กว้างมากนัก) ก่อนปลูกควรหว่าน ปูนขาวและไถพรวนตากดินไว้ให้แห้ง

กุหลาบสามารถปลูกได้ทั้งในดินที่เป็นกรดหรือด่าง แต่เจริญได้ดีในดิน ที่ค่อนข้างเป็นกรดเล็กน้อย คือมี pH ประมาณ 4.5-6.5 ถ้าดินเป็นกรดมากให้เติม ปูนขาว 60-100 กิโลกรัมต่อ 100 ตารางวา แต่ถ้าดินเป็นด่างก็ใส่กำมะถันผง 20-50 กิโลกรัมต่อ 100 ตารางวา เมื่อเตรียมแปลงปลูกเรียบร้อยแล้ว ให้ขุดหลุม ปลูกกว้างและลึก 30 x 30 เซนติเมตร (ถ้าเตรียมหลุมปลูกกว้างและลึกกว่านี้ จะ เป็นการดียิ่งขึ้น) จากนั้นก็จะใส่ปุ๋ยคอก เช่น ขี้เป็ด ขี้ไก่ ขี้วัว ฯลฯ ประมาณหลุมละ 1 บุ้งกี๋ ใส่ปุ๋ยซุปเปอร์ฟอสเฟต หรือกระดูกป่นเป็นปุ๋ยรองก้นหลุม ๆ ละ 1 กำมือ คลุกเคล้าให้เข้ากันแล้วจึงนำกิ่งพันธุ์กุหลาบซึ่งอาจจะเป็นกิ่งตอนหรือต้นติดตา ลงไปปลูก กลบดินที่โคนต้นให้กระชับและรดน้ำให้ชุ่ม
กิ่งพันธุ์ที่นิยมนำมาปลูกเพื่อตัดดอกเป็นการค้าในปัจจุบัน ได้แก่ กิ่งตัดชำ และกิ่งตอนจะมีเกษตรกรบางรายที่ปลูกโดยใช้ต้นติดตา แต่มีน้อยราย

ที่มา : pt.ac.th

23.10.08

การให้น้ำกุหลาบ

การให้น้ำกุหลาบ

กุหลาบเป็นพืชที่ต้องการความชื้นสูง ปริมาณน้ำที่รดลงไปในดินปลูกควร กะให้น้ำซึมได้ลึกประมาณ 16-18 นิ้วและอาจเว้นระยะการรดน้ำได้คือ ไม่จำเป็น ต้องรดน้ำทุกวัน (ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสภาพดินปลูก) มีข้อควรจำอย่างยิ่งในการรดน้ำ กุหลาบคือ อย่ารดน้ำให้โดนใบเนื่องจากโรคบางโรคที่อยู่ตามใบหรือกิ่งจะแพร่ระบาด กระจายไปได้โดยง่าย การให้น้ำก็ไม่ควรให้น้ำกระแทกดินปลูกแรงๆ เพราะเม็ดดิน จะกระเด็นขึ้นไปจับใบกุหลาบ ทำให้เชื้อโรคบางชนิดที่อาศัยอยู่ในดินระบาดกลับ ขึ้นไปที่ต้นโดยง่ายและถ้าจำเป็นจะต้องรดน้ำให้เปียก

ที่มา : pt.ac.th

การขยายพันธุ์กุหลาบ

การขยายพันธุ์กุหลาบที่นิยมใช้มี 3 วิธี คือ

1. การตัดชำ
วิธีการตัดชำที่นิยมทำอยู่ทั่วไปคือ เลือกกิ่งกุหลาบที่ไม่แก่และไม่อ่อน จนเกินไปนำมาตัดเป็นท่อนประมาณ 12-15 เซนติเมตร หรือ 1 คืบ รอยตัดต้อง อยู่ใต้ข้อพอดีแล้วตัดใบตรงโคนกิ่งออก จากนั้นเฉือนโคนทิ้ง แล้วจุ่มโคนกิ่งตัดชำนี้ ในฮอร์โมนเร่งราก เซ่น เซอราดิกส์ เบอร์ 2 (เพื่อช่วยเร่งให้ออกรากเร็วขึ้น) แล้วผึ่ง ให้แห้งนำไปปักชำในแปลงพ่นหมอกกลางแจ้ง ถ้าไม่มีแปลงพ่นหมอกก็ใช้เครื่องพ่นน้ำรดสนามหญ้าก็ได้แล้วให้น้ำเป็นระยะ ๆ ตามความจำเป็น โดยมีหลักว่าอย่า ให้ใบกุหลาบแห้ง กิ่งกุหลาบจะออกรากใน 12-15 วัน แล้วแต่พันธุ์ การชำกิ่งนี้ นิยมทำกันมากในปัจจุบันเพราะได้จำนวนต้นมากในระยะเวลาสั้นเสียค่าใช้จ่าย น้อยแต่กิ่งชำนี้เมื่อนำไปปลูกต้นจะโทรมเร็วภายใน 3- 4 ปี ซึ่งกุหลาบพันธุ์สีเหลือง และสีขาวมักจะออกรากยาก


ตัดกิ่งกุหลาบเป็นท่อนประมาณ 12-15 ซม.

เฉือนโคนกิ่งทิ้ง

จุ่มโคนกิ่งตัดชำในฮอร์โมนเร่งราก

2. การตอน

กิ่งที่ใช้ตอนมักมาจากกิ่งที่มีสภาพแตกต่างกันทั้งกิ่งอ่อนและกิ่งแก่ คละกันไปทำให้การเจริญเติบโตของต้นกุหลาบหลังลงแปลงปลูกในแปลงไม่สม่ำเสมอ ซึ่งการตอนนี้จะใช้เวลาในการเกิดรากนานประมาณ 4-7 สัปดาห์ ทั้งนี้ แล้วแต่ พันธุ์ที่จะใช้ตอน

3. การติดตา
วิธีการทำต้นกุหลาบติดตานี้ค่อนข้างยุ่งยากและต้องใช้เวลาในการทำ นานกว่า 2 วิธีแรกคือ ตั้งแต่เริ่มตัดชำต้นตอป่าจนถึงพันธุ์ดีทีนำไปติดนั้นออก ดอกแรกจะใช้เวลาประมาณ 5-6 เดือน โดยในขั้นแรกจะต้องตัดชำต้นตอป่า (ของกุหลาบป่า) ให้ออกรากและเลี้ยงต้นตอป่านั้นให้แตกยอดใหม่ยาวเกิน 1 ฟุต ขึ้นไป ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 3 เดือน (หลังตัดชำและออกราก) จากนั้นจึงนำ ตาพันธุ์ดีที่ต้องการไปติดตาที่บริเวณโคนของต้นตอป่า การติดตานี้จะต้องอาศัย ฝีมือและความชำนาญพอสมควรโดยจะใช้วิการติดตาแบบใดก็ได้ เช่น แบบตัวที เป็นต้น

วิธีติดตา วิธีติดตากุหลาบที่ได้ผลดีคือการติดตาแบบที่เรียกว่ารูปตัวที หรือ แบบโล่ มีวิธีทำดังนี้คือ

1. เลือกบริเวณที่จะติดตา ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะพยายามติดตาให้ต่ำที่สุด เท่าที่จะทำได้คือ ประมาณไม่เกิน 3 นิ้ว นับจากผิวดิน แล้วใช้กรรไกรหรือมีด ตัดหนามตรงบริเวณที่จะติดตาออกโดยรอบกิ่ง

2. ใช้ปลายมีดกรีดที่เปลือกเป็นรูปตัวที แล้วเผยอเปลือกตรงรอยกรีด ด้านบนให้เปิดออกเล็กน้อย

3. เฉือนตาเป็นรูปโล่ ให้ได้แผ่นตำยาวประมาณ 1 นิ้ว และให้แผ่นตานั้น มีเนื้อไม้ติดมาด้วยเพียงบางๆ ไม่ต้องแกะเนื้อไม้ติดมามาก ให้ลอกเนื้อไม้ออกอย่าง ระมัดระวังอย่าให้แผ่นตาโค้งงอหรือบอบช้ำ

4. นำแผ่นตาไปเสียบลงที่รอยกรีดของต้นตออย่างระมัดระวังอย่าให้แผ่นตาช้ำ โดยใช้มือซ้ายจับแผ่นตา (ตรงก้านใบ) ค่อย ๆ กดลงไปขณะเดียวกันมือขวา ก็ค่อยเปิดเปลือกช่วย แล้วพันด้วยพลาสติก
เพื่อให้ตาเจริญเติบโตเร็วขึ้น ควรปล่อยให้กิ่งใหม่เจริญเติบโตจนกระทั่ง กิ่งใหม่ยาวพอสมควรแล้วจึงตัดต้นตอที่อยู่เหนือกิ่งใหม่ออกทั้งหมด สำหรับ พลาสติก ที่ติดตาอยู่นั้นอาจจะปล่อยให้ผุหรือหลุดไปเองก็ได้ถ้าเห็นว่าแผ่นพลาสติกนั้นรัด ต้นเดิมแน่นเกินไปหรือไปขัดขวางการเจริญเติบโตของกิ่งใหม่ก็ให้แกะออก
ส่าหรับกิ่งที่แตกออกมาใหม่นี้ ควรมีไม้ผูกพยุงกิ่งไว้เสมอเพราะอาจจะ เกิดการฉีกขาดตรงรอยต่อได้ง่ายเนื่องจากรอยประสานยังไม่แข็งแรงนัก

ในกรณีที่การติดตานั้นไม่ได้ผล คือ แผ่นตาที่นำไปติดตานั้นเปลี่ยนเป็น สีน้ำตาลหรือสีดำให้รีบแกะแผ่นพลาสติกและแผ่นตานั้นออกแล้วติดตาใหม่ในด้าน ตรงข้ามกับของเดิม หากไม่ได้ผลอีกต้องเลี้ยงดูต้นตอนั้นจนกว่ารอยแผลจะเชื่อม ก้นดีแล้วจึงนำมาติดตาใหม่ได้

สำหรับการติดตาในกุหลาบแบบทรงต้นสูง (Standard) นั้นก็ทำเช่นเดียวกัน เพียงแต่ตำแหน่งที่ติดตาอยู่ในระดับสูงกว่าเท่านั้นเอง การติดตาจะติดที่ต้นตอหรือกิ่ง ขนาดใหญ่ที่แตกออกมาก็ได้

ที่มา : pt.ac.th

22.10.08

โรคและแมลงศัตรูของกุหลาบ

โรคและแมลงศัตรูของกุหลาบ

1. โรคใบจุด เกิดจากเชื้อรา มีลักษณะอาการเป็นจุดดำกลมบนใบ ส่วนใหญ่จะเป็นกับใบแก่จะทำให้ใบเหลืองและร่วงในเวลาต่อมา บางครั้งถ้าเป็นมากอาจ ลุกลามมาที่กิ่งด้วย ระบาดมากในฤดูฝน ควรป้องกันโดยฉีดพ่นด้วยสารเคมี เช่น ดูปราวิท ไดเทนเอ็ม-45 แคปแทน เบนเสท และเบนโนมิล
2. โรคราแป้ง เกิดจากเชื้อรา โรคนี้จะเป็นกับยอดอ่อนและดอกอ่อนมีลักษณะเป็นปุยขาวคล้ายแป้งทำให้ส่วนของพืชที่เป็นโรคนี้เกิดอาการหงิกงอไม่เจริญเติบโตต่อไป ระบาดมากในฤดูหนาว ควรป้องกันโดยฉีดพ่นด้วยสารเคมี เช่น เบนเสท ดาโคนิล และคาราแทน
3. โรคหนามดำ เกิดจากเชื้อราโดยเชื้อรานี้จะเข้าทำลายแผลที่เกิดจากรอยตัดหรือเด็ดหนามของกิ่งอ่อนแล้วลุกลามไปเรื่อยๆ ตามกิ่งก้าน ทำให้กิ่งก้าน เหี่ยวแห้งตายไปในที่สุดควรป้องกันโดยทาแผลจากรอยตัดด้วยปูนแดง
4. โรคใบจุดสีน้ำตาลหรือโรคตากบ เกิดจากเชื้อรา มีลักษณะอาการเป็นจุดกลมสีน้ำตาลขนาด 1/4 นิ้ว แล้วจะเปลี่ยนเป็นวงกลมสีเทามีขอบสีม่วง-แดง ระบาดมากในฤดูฝน ควรป้องกันโดยใช้สารเคมีเบนเสท ไดเทนหรือแบนแซดดี
5. โรคไวรัส เกิดจากเชื้อไวรัส ลักษณะอาการจะปรากฎให้เห็นที่ใบ โดยใบจะด่างเหลือง เมื่อพบว่าต้นกุหลาบเป็นโรคนี้ให้ถอนและเผาทำลายเสีย

ที่มา : pt.ac.th



กุหลาบที่ปลูกในประเทศไทย

กุหลาบที่ปลูกในประเทศไทยปัจจุบันนี้มีอยู่ด้วยกันหลายประเภทซึ่งถ้า แบ่งออกโดยสังเขปจะได้ดังนี้

1. กุหลาบตัดดอกหรือไฮบริดที (Hybrid Tea หรือ HT)J ปกติมัก ออกดอกเป็นดอกเดี่ยวมีขนาดโต กลีบดอกซ้อน พุ่มต้นตั้งตรงสูงประมาณ 1-2 เมตร กุหลาบที่มีขายทั่วไป ตามท้องตลาดขณะนี้มักจะเป็นกุหลาบประเภทนี้ อย่า งไร ก็ตาม พันธุ์ ไฮบริดที นั้น มิได้ใช้บลูกเป็นไม้ตัดดอกได้ดีทุกพันธุ์ ดังนั้น จำเป็น ต้องคัดเลือกพันธุ์ให้เหมาะสมสำหรับแต่ละท้องที่ ลักษณะที่เหมาะสมสำหรับจะใช้ เป็นพันธุ์สำหรับตัดดอก คือ

1. แข็งแรง ต้นโต เลี้ยงง่ายและเจริญเติบโตได้ดี
2. ออกดอกสม่ำเสมอไม่โทรมไวเมื่อถูกตัดดอกไปมาก ๆ
3. ทนต่อโรคและแมลงได้ดีพอสมควร
4. ลำต้นตั้งตรง ซึ่งจะทำให้ปลูกได้ชิดกันเป็นการประหยัดเนื้อที่
5. ให้กิ่งก้านยาวตรง มีหนามน้อย ใบงามสมดุลกับกิ่ง
6. ฟอร์มดอกดี ทรงดอกยาวแบบแจกันหรือปลายกลีบดอกแหลม
7. กลีบดอกไม่ซ้อนหนาเกินไปจนดอกบานไม่ออก
8. กลีบดอกหนา ทนต่อการบรรจุหีบห่อและขนส่ง
9. ดอกมีสีสะดุดตาและไม่เปลี่ยนสีเมื่อดอกโรย
10. ไม่เหี่ยวเฉาง่ายหลังจากตัดแล้ว
11. ดอกมีกลิ่นหอม (ถ้าเป็นไปได้)

พันธุ์เรดมาสเตอร์พีช

พันธุ์แกรนด์มาสเตอร์พีช
ปัจจุบันกุหลาบที่นิยมปลูกเป็นไม้ตัดดอกในประเทศไทยมีอยู่มากมายหลายพันธุ์ แต่พันธุ์ที่กรมส่งเสริมการเกษตรแนะนำให้ปลูกมีดังนี้

พันธุ์ดอกสีแดง ได้แก่ พันธุ์บราโว. เรดมาสเตอร์พีช, คริสเตียนดิออร์, โอลิมเปียด, นอริค้า, แกรนด์มาสเตอร์พีช, ปาปามิลแลนด์, เวก้า

พันธุ์ดอกสีเหลือง ได้แก่ พันธุ์คิงส์แรนซัม, ซันคิงส์, เฮสมุดสมิดท์,นิวเดย์ โอรีโกลด์ และเมลิลอน

พันธุ์ดอกสีส้ม ได้แก่ พันธุ์ซันดาวน์เนอร์, แซนดรา, ซุปเปอร์สตาร์หรือทรอพปิคานา

พันธุ์ดอกสีชมพู ได้แก่ พันธุ์มิสออลอเมริกาบิวตี้ หรือมาเรีย, คาสลาส, ไอเฟลทาวเวอร์, สวาทมอร์, เฟรนด์ชิพ, เพอร์ฟูมดีไลท์, จูวังแซล, เฟิร์สท์ไพรซ์, อเควเรียส, ซูซานแฮมเชียร์

พันธุ์ดอกสีขาว ได้แก่ พันธุ์ไวท์คริสต์มาส เอทีนา

พันธุ์ดอกสีอื่นๆ ได้แก่ พันธุ์แยงกี้ดูเดิ้ล, ดับเบิ้ลดีไลท์, เบลแอนจ์

นอกจากนี้ยังมีกุหลาบสำหรับเด็ดดอกร้อยพวงมาลัย เช่น กุหลาบพันธุ์ฟูซิเลียร์ ซึ่งมีดอกสีส้ม

พันธุ์นิวเดย์

พันธุ์มิสออลอเมริกันบิวตี้

พันธุ์เพอร์ฟูมดีไลท์

2. กุหลาบพวง หรือ ฟลอริบันด้า ( Foribunda หรือ F.) กุหลาบพวงมีความแข็งแรงทนทานกว่ากุหลาบตัดดอก ออกดอกดกแต่ดอกไม่ใหญ่เท่ากับกุหลาบตัดดอกแต่มีครบทุกสี และออกดอกเป็นช่อทีละหลาย ๆ ดอก จึงนิยมเรียกว่ากุหลาบพวง และมักบานพร้อมกัน ดอกมีขนาดเล็ก พุ่มต้นตั้งตรงสูง ประมาณครึ่งเมตรถึง 1 เมตร เหมาะสมที่จะปลูกในแปลงประดับและในกระถางเช่น พันธุ์ฟูซีเลียร์, พันธุ์แองเจลเฟส

3. ประเภทแกรนดิฟลอร่า (Grandiflora หรือ Gr. ) กุหลาบประเภทนี้เป็นกุหลาบลูกผสมระหว่างกุหลาบตัดดอก และกุหลาบพวง มีลักษณะเป็นดอกเดี่ยว แต่ดอกเล็กกว่ากุหลาบตัดดอก มีก้านยาว ต้นโต สูง และแข็งแรง เช่ น พันธุ์คาเมล็อท, พันธุ์คาเสทไนท์

4. กุหลาบ หรือ มินิเอเจอร์ (Miniature หรือ Min.) เป็นกุหลาบที่มีขนาดพุ่มต้นเล็ก สูง 1- 2 ฟุต ออกดอกเป็นพวงและดอกมีขนาดเล็ก นิยมปลูกประดับแปลง และใช้เป็นไม้กระถาง เช่น พันธุ์เบบี้ มาสเคอร์เหรด

5. กุหลาบเลื้อย หรือ ไคลมเบอร์ (Climher หรือ Cl.) กุหลาบชนิดนี้ลำต้นสูงตรง นำไปเลื้อยพันกับสิ่งต่าง ๆ ได้ดอกมีทั้งเป็นดอกขนาดใหญ่ และดอกเป็นพวง เช่น พันธุ์ดอนจวน, พันธุ์ค็อกเทล

6. ประเภทโพลีแอนท่า (Polyantha หรือ Pol.) เป็นกุหลาบลูกผสมระหว่างพันธุ์โรซ่า มัลติฟอร่า กับ โรซ่า ไชเนนซิสมีขนาดพุ่มต้นเตี้ย แข็งแรงและทนทานมาก ออกดอกเป็นพวงคล้ายกุหลาบพวง ลักษณะดอกและต้นคล้ายกุหลาบหนูแต่จะแตกต่างกับกุหลาบหนูตรงที่กุหลาบโพลีแอนท่าจะมีหูใบที่มีลักษณะของพันธุโรซ่า มัลติฟลอร่า กุหลาบประเภทนี้ เช่น พันธุ์วายวอน ราเบีย

7. ประเภทแรมเบลอร์ (Rambler หรือ R) มีลำต้นยาวและอ่อนโค้งออกดอกเป็นพวง และดอกมีขนาดเล็ก เช่น พันธ์ไดโรที เปอร์กิน

8. กุหลาบพุ่ม หรือซรับโรส (Shrub หรือ S.) ได้แก่กุหลาบพันธุ์ป่าหรือลูกผสมของพันธุ์ป่า ซึ่งมีทรงต้นเป็นพุ่ม ออกดอกเป็นช่อ ดอกมีขนาดเล็กส่วนมากมีกลีบชั้นเดียว เช่น พันธ์โรซ่า นิติด้า, โรซ่า มัลติฟลอร่า, โรซ่า รูโกซ่า

ที่มา : pt.ac.th


21.10.08

ความหมายของกุหลาบ

ความหมายของกุหลาบ

กุหลาบแดงเข้ม (สีเหมือนไวน์แดง) "เธอช่างมีเสน่ห์งามเหลือเกิน"
กุหลาบตูมสีแดง "ฉันเริ่มรักเธอแล้วจ้ะ"
กุหลาบบานสีแดง "ฉันรักเธอเข้าแล้ว"
กุหลาบสีแดงที่โรยแล้ว "ความรักของเรานั้นจบลงแล้ว"
กุหลาบตูมสีขาว "เธอช่างไร้เดียงสาน่าทนุถนอมเหลือเกิน ฉันรักเธอ"
กุหลาบสีขาวที่โรยแล้ว "เสน่ห์ของเธอมันเริ่มลดน้อยถอยลงแล้วนะจ๊ะ

จำนวนกุหลาบสื่อความหมาย

จำนวนกุหลาบสื่อความหมาย

1 ดอก รักแรกพบ
2 ดอก แสดงความรู้สึกที่ดีให้กัน
3 ดอก ฉันรักเธอ
7 ดอก คุณทำให้ฉันหลงเสน่ห์
9 ดอก เราสองคนจะรักกันตลอดไป
10 ดอก คุณเป็นคนที่ดีเลิศ 1
1 ดอก คุณเป็นสมบัติชิ้นที่มีค่าชิ้นเดียวของฉัน
12 ดอก ขอให้เธอเป็นคู่ของฉันเพียงคนเดียว
13 ดอก เพื่อนแท้เสมอ
15 ดอก ฉันรู้สึกเสียใจจริงๆ
20 ดอก ฉันมีความจริงใจต่อเธอ
21 ดอก ชีวิตินี้ฉันมอบเพื่อเธอ
36 ดอก ฉันยังจำความหลังอันแสนหวาน
40 ดอก ความรักของฉันเป็นรักแท้
99 ดอก ฉันรักเธอจนวันตาย
100 ดอก ฉันอุทิศชีวิตนี้เพื่อเธอ
101 ดอก ฉันมีคุณเพียงคนเดียวเท่านั้น
108 ดอก คุณจะแต่งงานกับฉันไหม
999 ดอก ฉันจะรักคุณจนวินาทีสุดท้าย

20.10.08

สีกุหลาบสื่อความหมาย

สีกุหลาบสื่อความหมาย

ในวันวาเลนไทน์ ซึ่งเป็นวันแห่งความรัก ดอกกุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์ และของกำนัลของวันนี้ ดังนั้นเวลาที่คิดจะให้ดอกกุหลาบแก่ใครสักคน เราก็น่าจะรู้ความหมายของสีอันเป็นสื่อความหมายของดอกกุหลาบไว้บ้างก็น่าจะดี ซึ่งก็จะมีความดังนี้

สีแดง สื่อความหมายถึง ความรักและความปราถนา เป็นดอกไม้ของกามเทพ คิวปิด และอีรอส เป็นสิ่งนำโชคนำความรักมาให้แก่หญิงหรือชายที่ได้รับ

สีชมพู สื่อความหมายถึง ความรักที่มีความสุขอย่างสมบูรณ์

สีขาว สื่อความหมายถึง ความมีเสน่ห์ ความบริสุทธิ์ มิตรภาพ และความสงบเงียบ และนำโชคมาให้แก่หญิงหรือชายเช่นเดียวกับกุหลาบแดง

สีเหลือง สื่อความหมายถึง เราเป็นเพื่อนที่ดีต่อกันเสมอนะ

สีขาวและแดง สื่อความหมายถึง ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

กุหลาบตูม สื่อความหมายถึง ความงามและความเยาว์วัย

ที่มา : panmai.com

ตำนานดอกกุหลาบ

ตำนานดอกกุหลาบ

กุหลาบเป็นดอกไม้ที่นิยมปลูกไว้ชื่นชมมาแต่โบราณ ประมาณกันว่ากุหลาบเกิดขึ้นเมื่อกว่า 70 ล้านปีมาแล้ว เคยมีการค้นพบฟอสซิลของกุหลาบใน รัฐโคโลราโด และ รัฐโอเรกอน ประเทศสหรัฐอเมริกา และได้พิสูจน์ว่ากุหลาบป่าเป็นพืชที่มีอายุถึง 40 ล้านปี แต่กุหลาบป่าสมัยโลกล้านปีนี้ มีรูปร่างหน้าตาไม่เหมือนกุหลาบสมัยนี้ เนื่องจากมนุษย์ได้นำเอากุหลาบป่ามาปลูกและผสมพันธุ์ ขยายพันธุ์เป็นพันธุ์ต่างๆ มากมาย ความจริงแล้วกำเนิดของกุหลาบหรือกุหลาบป่านี้มีเฉพาะในแถบบริเวณเหนือเส้นศูนย์สูตรของโลกเท่านั้น คือกำเนิดในภาคกลางของทวีปเอเชีย แล้วแพร่ขยายพันธุ์ไปตลอดซีกโลกเหนือ ไม่ว่าจะเป็นแถบที่มีอากาศหนาวจัดอย่าง อาร์กติก อลาสก้า ไซบีเรีย หรือแถบอากาศร้อนอย่าง อินเดีย แอฟริกาเหนือ แต่ในบริเวณแถบใต้เส้นศูนย์สูตรอย่างทวีปออสเตรเลีย หรือเกาะต่างๆ ในมหาสมุทรรวมทั้งแอฟริกาใต้ ไม่เคยมีปรากฏว่ามีกุหลาบป่าเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเลย ตามประวัติศาสตร์เล่าว่า กุหลาบป่าถูกนำมาปลูกไว้ในพระราชวังของจักรพรรด์จีน ในสมัยราชวงศ์ฮั่นราว 5,000 ปีมาแล้ว ขณะที่อียิปต์เองก็ปลูกกุหลาบเป็นไม้ดอก ส่งไปขายให้แก่ชาวโรมัน ชาวโรมันเป็นชาติที่รักดอกกุหลาบมากถึงจะสั่งซื้อจากประเทศอียิปต์แล้ว ยังลงทุนสร้างเนอร์สเซอรี่ขนาดใหญ่สำหรับปลูกดอกกุหลาบอีกด้วย สำหรับชาวโรมันแล้วเรียกได้ว่าดอกกุหลาบมีความสำคัญกับชีวิตประจำวัน เพราะชาวโรมันถือว่าดอกกุหลาบเป็นสัญลักษณ์ของความรัก ซึ่งเป็นทั้งของขวัญ เป็นดอกไม้สำหรับทำเป็นมาลัยต้อนรับแขก เป็นดอกไม้สำหรับงานเฉลิมฉลองต่างๆ ใช้เป็นส่วนประกอบสำหรับทำขนม ทำไวน์ ส่วนน้ำมันกุหลาบยังใช้ทำเป็นยาได้อีกด้วย กุหลาบถือเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักและความโรแมนติก ซึ่งมีบางตำนานเล่าว่า ดอกกุหลาบเป็นเสมือนเครื่องหมายแทนการกำเนิดของ เทพธิดาวีนัส ซึ่งเป็นเทพแห่งความงาม และความรัก วีนัสเป็นที่รู้จักกันในชื่อ อโฟรไดท์ ในตำนานเทพของกรีกได้กล่าวไว้ว่า น้ำตาของเธอหยดลงปะปนกับเลือดของ อคอนิส คนรักของเธอที่ถูกหมูป่าฆ่า เลือดและน้ำตาหยดลงสู่พื้นแล้วกลายเป็นดอกไม้สีแดงเข้มหรือดอกกุหลาบนั่นเอง แต่บางตำนานก็เล่าว่าดอกกุหลาบเกิดจากเลือดของ อโฟรไดท์ เองที่หยดลงสู่พื้น เมื่อเธอแทงตัวเองด้วยหนามแหลม บางตำนานกล่าวว่ากุหลาบเกิดจากการชุมนุมของบรรดาทวยเทพ เพื่อประทานชีวิตใหม่ให้กับนางกินรีนางหนึ่ง ซึ่งเทพธิดาแห่งบุปผาชาติ หรือ คลอริส บังเอิญไปพบนางนอนสิ้นชีพอยู่ ในตำนานนี้กล่าวว่า อโฟรไดท์ เป็นเทพผู้ประทานความงามให้ มีเทพอีกสามองค์ประทานความสดใส เสน่ห์ และความน่าอภิรมย์ และมี เซไฟรัส ซึ่งเป็นลมตะวันตกได้ช่วยพัดกลุ่มเมฆ เพื่อเปิดฟ้าให้กับแสงของเทพ อพอลโล หรือแสงอาทิตย์ส่องลงมาเพื่อประทานพรอมตะ จากนั้น ไดโอนีเซียส เทพเจ้าแห่งเหล้าองุ่นก็ประทานน้ำอมฤต และกลิ่นหอม เมื่อสร้างบุปผาชาติดอกใหม่นี้ขึ้นมาได้แล้ว เทพทั้งหลายก็เรียกดอกไม้ซึ่งมีกลิ่นหอมและทรงเสน่ห์นี้ว่า Rosa จากนั้น เทพธิดาคลอริส ก็รวบรวมหยดน้ำค้างมาประดับเป็นมงกุฎ เพื่อมอบให้ดอกไม้นี้เป็นราชินีแห่งบุปผาชาติทั้งมวล จากนั้นก็ประทานดอกกุหลาบให้กับเทพ อีโรส ซึ่งเป็นเทพแห่งความรัก กุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความรัก แล้วเทพ อีโรส ก็ประทานกุหลาบนี้ให้แก่ ฮาร์โพเครติส ซึ่งเป็นเทพแห่งความเงียบ เพื่อที่จะเก็บซ่อนความอ่อนแอของทวยเทพทั้งหลาย ดอกกุหลาบจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของความเงียบและความเร้นลับอีกอย่างหนึ่ง กุหลาบกลายเป็นของขวัญ ของกำนัลสำหรับการแสดงความรัก และมักจะมีผู้เปรียบเทียบความงามของผู้หญิงเป็นเสมือนดอกกุหลาบ และผู้หญิงคนแรกในประวัติศาสตร์โลกที่ได้รับสมญาว่าเป็นผู้หญิงงามเสมือนดอกกุหลาบคือ พระนางคลีโอพัตรา ซึ่งพระนางยังได้เคยต้อนรับ มาร์ค แอนโทนี คนรักของพระนาง ในห้องซึ่งโรยด้วยดอกกุหลาบหนาถึง 18 นิ้ว หอมฟุ้งไปด้วยกลิ่นกุหลาบ


ที่มา : panmai.com

กุหลาบแดง

กุหลาบแดง

กุหลาบแดง คือ ดอกไม้สุดโปรดของเธอ และเธอก็ชื่อโรส ซึ่งหมายถึงกุหลาบด้วย ทุกปีสามีของเธอจะส่งดอกกุหลาบผูกโบว์น่ารักให้ แม้กระทั่งปีที่เขาตายจากไป เธอก็ยังได้รับดอกกุหลาบซึ่งมาส่งที่หน้าบ้าน การ์ดที่แนบมาเขียนไว้ว่า " ที่รักของผม " เหมือนกับหลาย ๆ ปีก่อนหน้านี้ แต่ละปีที่เขาส่งดอกกุหลาบให้เธอ เขาจะเขียนว่า " ปีนี้ผมรักคุณมากกว่าที่ผมเคยรักเมื่อปีก่อน เพราะความรักของผมเติบโดขึ้นทุกปีที่ผ่านไป " เธอรู้ว่านี่คือกุหลาบช่อสุดท้ายแล้วที่เธอจะได้รับ เธอคิดว่าเขาคงสั่งดอกไม้ล่วงหน้าก่อนถึงวันวาเลนไทน์ โดยที่เขาไม่รู้ว่าเขาจะจากไป เขามักจะทำอะไรเอาไว้ล่วงหน้าเสมอ เพื่อที่จะได้ไม่พลาดแม้ว่าเขาจะงานยุ่งแค่ไหนก็ตาม เธอต้ดก้านกุหลาบ แล้วจัดมันลงในแจกันสุดพิเศษ วางไว้ข้างภาพถ่ายใบหน้าเปื้อนยิ้มของสามี นั่งลงบนเก้าอี้ตัวโปรดของเขา เนิ่นนานนับชั่วโมง จ้องมองภาพถ่ายของเขา ที่มีดอกกุหลาบอยู่ด้านข้าง หนึ่งปีผ่านไป มันยากมากสำหรับการที่ต้องอยู่คนเดียว

ที่มา : thai.net/siamnadool